วันเสาร์ที่ 29 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

Plumeria กับ STEM Education





STEM Education คือการสอนแบบบูรณาข้ามกลุ่มสาระวิชา (Interdisciplinary Integration) ระหว่าง ศาสตร์สาขาต่างๆ ได้แก่ วิทยาศาสตร์ (Science: S) เทคโนโลยี (Technology: T) วิศวกรรมศาสตร์ (Engineer: E) และ คณิตศาสตร์ (Mathematics: M) โดยนำจุดเด่นของธรรมชาติวิชา วิธีการสอนของแต่ละวิชามาผสมผสานกัน เพื่อให้ผู้เรียนนําความรู้มาใช้ในการแก้ปัญหา ค้นคว้า และพัฒนาสิ่งต่างๆ ในสถานการณ์โลกปัจจุบัน ซึ่งอาศัยการจัดการเรียนรู้ที่ครูผู้สอนหลายสาขาร่วมมือกัน เพราะในการทํางานนั้นต้องใช้ความรู้หลายด้านไม่ได้แยกใช้ความรู้เป็นส่วนๆ



โดย บล็อก Plumeria ลีลาวดีน่ารู้

ได้นำหลักการของ STEM Education มาใช้ดังนี้

  • S : วิทยาศาสตร์เรื่องการศึกษาพืช ลักษณะของพืชและประโยชน์จากพืชชนิดนั้น (ลีลาวดี)
  • T : ใช้เทคโนโลยีในการเผยแพร่ความรู้ให้มีความแพร่หลายแก่ผู้คนมากขึ้น
  • E : ใช้กระบวนการ Engineering Design Process ในการจัดทำและนำเสนอผลงาน
  • M : ใช้กระบวนการคิดคณิตศาสตร์ (Mathematical Thinking) เช่นการจัดรูปแบบ ฯลฯ ในการจัดทำผลงาน





บทนำ

ลีลาวดี




ชื่อวิทยาศาสตร์:       Plumeria spp.

ตระกูล:                    Apocynaceae

ชื่อสามัญ:                Frangipani,Pagoda,Temple

ถิ่นกำเนิด:               เม็กซิโกใต้ถึงตอนเหนือทวีปอเมริกาใต้


ต้นลีลาวดี หรือ ต้นลั่นทม ถือว่าเป็นไม้ดอกกลิ่นหอมที่นิยมปลูกกันมากในสวนทั้งในสวนสาธารณะ หรือแม้กระทั่งสวนในบ้าน ถึงแม้ว่าตามตำราความเชื่อจะบอกว่า "ไม่ควรปลูก" ไม้ดอกชนิดนี้ไว้ในบ้านก็ตาม เนื่องจากชื่อเดิมคือ "ลั่นทม" ไปพ้องกับคำว่า "ระทม" ซึ่งแปลว่า เศร้าโศก ทุกข์ใจ เป็นต้น แต่ทั้งนี้ ในปัจจุบันได้มีการเปลี่ยนชื่อใหม่ เป็น "ลีลาวดี" ไม้ดอกชนิดนี้ จึงเป็นตัวเลือกหนึ่งที่เจ้าของบ้าน รวมไปถึงผู้ที่ชื่นชอบไม้ดอกนิยมปลูกกัน

ลักษณะทั่วไปของลีลาวดี


          ลีลาวดีเป็นไม้ดอกที่ มีสีสันสวยงาม หลากหลายสี ไม่ว่าจะเป็น ขาว เหลืองอ่อน แดง ชมพู ฯลฯ  บางดอกก็มีมากกว่า 1 สี นอกจากนี้ความพิเศษของลีลาวดีคือกลิ่นหอมนุ่ม ๆ ที่ไม่หอมเตะจมูกจนเกินไป แต่หอมหวานกำลังดี 



          สำหรับต้นลีลาวดีมีขนาดตั้งแต่พุ่มเตี้ยแคระสูงประมาณ 0.9 - 1.2 เมตร จนถึงต้นที่สูงมาก และบางต้นอาจสูงถึง 12 เมตร 

         ลำต้น แตกกิ่งก้านสาขาและพุ่มใบสวยงาม มีน้ำยางสีขาวข้น เป็นไม้ผลัดที่สลัดใบในฤดูแล้ง ก่อนที่จะผลิดอกและผลิใบรุ่นใหม่ 

         กิ่ง ถ้า หากเป็นกิ่งที่ยังไม่แก่ จะมีสีเขียวอ่อนนุ่ม ดูเกือบจะอวบน้ำ ส่วนกิ่งแก่มีสีเทามีรอยตะปุ่มตะป่ำ กิ่งไม่สามารถทานน้ำหนักได้ กิ่งเปราะ เปลือกลำต้นหนาต้นที่โตเต็มที่แล้วจะพัฒนาจนกระทั่งมีความแข็งแรงมากขึ้น

         ใบ เป็น ใบเดี่ยว มีการเรียงตัวแบบสลับและหนาแน่นใกล้ปลายกิ่ง มีลักษณะแตกต่างกันไปทั้งรูปร่าง ขนาด สี และความหนาแน่น โดยทั่วไปใบจะหนา เหนียวแข็ง และมีสีตั้งแต่สีเขียวอ่อนถึงสีเขียวเข้ม มีเส้นกลางใบแตกสาขาออกไปคล้ายขนนก ขนาดใบแตกต่างกัน

         ช่อดอก ดอก จะผลิออกมาจากปลายยอดเหนือใบ เห็นเป็นช่อดอกใหญ่สวยงาม แต่ก็มีบางชนิดที่ออกช่อดอกระหว่างใบ หรือใต้ใบบางชนิดห้อยลงบางชนิดตั้งขึ้น ในหนึ่งช่อจะมีดอกบานพร้อมกัน 10 – 30 ดอก บางต้นที่มีความสมบูรณ์เต็มที่อาจมีดอกมากกว่า 100 ดอก ต่อ 1 ช่อ 


          ลีลาวดี จะออกดอกประมาณเดือนกุมภาพันธ์ถึงเดือนเมษายน บางพันธุ์สามารถออกดอกได้ตลอดทั้งปีลักษณะของ ดอก โดยทั่วไปจะมีขนาดใหญ่ถึงกลาง ยกเว้นบางพันธุ์ที่มีขนาดเล็ก กลีบดอกมี 5 กลีบ 

สายพันธุ์ของต้นลีลาวดี

สายพันธุ์ของต้นลีลาวดี



         Belle Vista มีชื่อไทยว่า สุปราณี พิงค์ เป็นพันธุ์ที่ออกดอกง่าย ดอกมีสีชมพูหวาน ขนาดดอกกลาง ๆ ไม่ใหญ่มาก ลักษณะกลีบดอกหน้านอกเป็นสีชมพูเข้มไล่อ่อน กลีบดอกด้านในเป็นสีเหลือง ส่วนลำต้นจะไม่ใหญ่มาก ความสูงไม่เกิน 1-2 เมตร


ภาพจาก Plumarin.com
         Madam Poni เป็นลีลาวดีลูกผสมที่ลักษณะดอกแปลกกว่าทั่วไป ดอกต้นเดียวกันบานพร้อมกันก็ยังไม่ค่อยเหมือนกัน บางทีเรียกกันว่าค็อกสกรู (Cockscrew) หรือสตาร์ (Star) ตามลักษณะกลีบดอกที่บิดและเป็นแฉกปลายแหลม 5 แฉกคล้ายดาว ดอกมีกลิ่นหอมมาก

ภาพจาก plumeriaparadise

         Aztec Gold เป็นลีลาวดีที่ดอกมีกลิ่นหอมเฉพาะคล้ายกลิ่นลูกท้อสุก ใบมีลักษณะรูปหอก ปลายแหลมสีเขียวมะกอด ก้านใบสีเขียวเหลือบแดง เมื่อตอนบานใหม่ ๆ จะเป็นสีทองเข้ม มีแถมชมพูแซมจากด้านหลัง แต่พอนานไป ขอบกลีบจะค่อย ๆ เปลี่ยนสีเป็นสีขาว

ภาพจาก davesgarden

         Pink Pansy  เป็นลีลาวดีไม้นอกพันธุ์แท้ สีขาว-ชมพู ดอกขนาดกลาง-ใหญ่ ดอกกลม ทรงดอกเป็นรูปถ้วย ออกดอกดกตลอดทั้งปี ช่อใหญ่ มีกลิ่นหอมมาก ๆ หอมโชยแบบหอมหวาน ขนาดต้นสูงพอประมาณ ขนาด 1.5 เมตร 

         Moonlight  เป็นลีลาวดีสีเหลืองอ่อน ออกดอกเป็นช่อใหญ่ ก้านดอกมีความแข็งแรง ทรงต้นไม่ใหญ่มาก สามารถปลูกในพื้นที่ไม่มากได้ จัดเป็นลีลาวดีที่ได้รับความนิยม

ภาพจาก  plumeriaparadise

         India เป็นพันธุ์ลีลาวดีแดง (Plumeria ruba) เป็นลูกผสมที่สวยทั้งดอกและใบ ดอกใหญ่สีเหลืองอมส้ม กลิ่นหอมเหมือนผลไม้ ใบมันเงาเล็กน้อย แตกกิ่งในแนวตั้ง ช่วงกิ่งยาว

ภาพจาก alohaplumeria

         Puu Kahea มีชื่ออื่นอีก คือ  O Sullivan และ  Fiesta เกิดจากการผสมเกสรโดยธรรมชาติของลีลาวดีแดง 2 สายพันธุ์ คือ Plumeris robra forma acuminata กับ Plumeria rubra เป็นไม้ยืนต้นผลัดใบ ทรงพุ่มแน่น ใบรูปหอกกลับปลายเรียวแหลม แผ่นใบแข็งสีเขียวขอบแดง ก้านใบสีเขียวเหลือบแดง ดอกใหญ่กลิ่นหอมอ่อน ๆ ไม่แรงมาก 


ภาพจาก frangipaniworld

         Kimi Moragne ในประเทศไทยเรียกว่า  เกรนนี่โรรอง เป็นลีลาวดีสีชมพูอมสีม่วง มีกลิ่นหอมและช่อดอกขนาดใหญ่ ประมาณ 4 นิ้ว เป็นลูกผสมระหว่าง เกสรตัวผู้ Scott Pratt กับเกสรตัวเมีย Daisy Willcox เป็นลีลาวดีที่ได้รับความนิยมไปทั่วโลก มีกลิ่นหอม และมีดอกติดต้นประมาณ 8 เดือนในหนึ่งปี

ภาพจาก Plumarin.com

         My Valentine เป็นลีลาวดีที่มีกลีบดอกโต กลีบดอกมีขาว-ชมพู กลิ่นหอมหวานคล้ายดอกกุหลาบ


         ขาวพวงแคระ เป็นไม้พุ่มเตี้ย ต้นสูงไม่เกิน 1.5- 2 เมตร กลีบดอกเป็นรูปรีสีขาวสะอาด ตรงกลางมีสีเหลืองสดอย่างเห็นได้ชัด ขนาดดอก 3 นิ้ว  ออกเป็นช่อตามซอกใบใกล้ ปลายยอด แต่ละช่อประกอบด้วยดอกย่อยไม่น้อยกว่า 40-50 ดอก ช่อดอกตั้งขึ้นปลายแยกเป็นกลีบดอก 5 กลีบ ซ้อนเหลื่อมกันเล็กน้อย


         พวงหยก เป็นลีลาวดีสีเหลืองอมส้มอ่อน กลีบดอกกลมใหญ่ ขอบกลีบสีแดงเข้ม หลังดอกมีสีแดง กลิ่นหอมอ่อน บานเป็นช่อ  



         เพชรพัชราภรณ์ เป็นลีลาวดีที่มีไม้สีเนื้อ หรือสีน้ำตาล มีช่อดอกแน่นเป็นกระจุก  ทรงต้นคอมแพ็ค เหมาะสำหรับคนพื้นที่ไม่มากด้วย พอออกดอกแรก ๆ จะสีมีน้ำตาลอ่อน ๆ แล้วค่อยจางเป็นสีเนื้อ มีกลิ่นหอม ส่วนใบจะสีเส้นสีแดงพาดอยู่  

         เหลืองศิริมงคล เป็นลีลาวดีที่พบในประเทศไทยที่มีชื่อเสียงมากที่สุดสายพันธุ์หนึ่ง มีสีเหลืองสด กลิ่นหอมจาง ๆ ลักษณะกลีบดอกจะเล็ก ๆ เมื่อบานแล้วมองดูคล้ายรูปดาว 

         สังวาลย์ทับทิม เป็นลีลาวดีที่เป็นลูกไม้ใหม่มาแรง กลีบดอกเป็นสีชมพูออกเป็นบานเย็น ฟอร์มดอกกลมมีขนาดดอกใหญ่ ช่อดอกดกพอสมควร 


ภาพจาก jack-garden

         พันธุ์ขาวพวง เป็นพันธุ์ลีลาวดีโบราณดั้งเดิมที่มีในประเทศไทยแรก ๆ จะเห็นตามวังเก่า ๆ หรือวัดทั่ว ๆ ไป ออกดอกดกมาก ช่อดอกใหญ่มี 10-15 ดอก มีกลิ่นหอมเย็น ๆ 



อ้างอิง : http://home.kapook.com/view44457.html

วิธีปลูก การดูแลรักษา และการขยายพันธุ์


การปลูกต้นลีลาวดีในกระถาง

          ต้นลีลาวดี จะเติบโตอย่างดีต่อวัสดุปลูกที่มีความอุดมสมบูรณ์ ระบายน้ำดี มีอินทรียวัตถุสูง และได้รับปุ๋ยเสริมตามความเหมาะสม สัดส่วนการปลูกที่แนะนำโดยทั่วไปคือ ใช้มูลวัวที่ย่อยสลายแล้ว,ใบไม้ผุ และดิน ในอัตราส่วน 2:1:1 แต่วัสดุปลูกที่มีขนาดเล็กละเอียดเมื่อถึงระยะหนึ่งจะอัดตัวแน่นทำให้รากพืช ขาดออกซิเจน น้ำขังไม่สามารถระบายได้ ทำให้เกิดโรครากเน่าได้ 

การปลูกต้นลีลาวดีลงดินในแปลงปลูก

          การปลูกต้นลีลาวดีต้นหนึ่งต้องใช้พื้นที่ประมาณ 5 ตารางเมตร ซึ่งดินร่วนปนทรายเป็นดินที่เหมาะสมที่สุดในการปลูก ส่วนในดินนั้นควรมีอินทรียวัตถุที่เหมาะสม สามารถดูดความชื้นได้เป็นอย่างดี ในขณะเดียวกันต้องสามารถระบายน้ำได้ดี มีความเป็นกรดเป็นด่างอยู่ในช่วง 6.5-7.5  

การดูแลรักษาต้นลีลาวดี

          ต้นลีลาวดี สามารถเจริญเติบโตได้ดีในสภาพแวดล้อมที่กันดาร ดินไม่อุดมสมบูรณ์มากนัก แต่ถ้าต้องการให้ลีลาวดีออกดอกได้ดีควรนำไปปลูกในกระถางและใช้ดินที่เป็นกรด เหมือนกับพืชเขตร้อนทั่วไป ลีลาวดีชอบความชื้นในอากาศสูงและไม่ชอบอยู่ในดินที่มีน้ำท่วมขังหรือมีการรด น้ำบ่อยครั้ง การปลูกควรเน้นการระบายน้ำหรือการยกร่องในแปลงปลูกเป็นหลัก ลีลาวดีเป็นพืชที่ต้องการแสงแดดในเวลากลางวันอย่างน้อยครึ่งวัน แต่หลายชนิดต้องการแสงแดดเต็มวัน ยกเว้นบางชนิดที่มีดอกสีแดงซึ่งจะชอบการพรางแสงมากกว่า

         1. การให้น้ำ
การปลูกในกระถาง : การให้น้ำควรรดให้ดินเปียกทั่วถึง จนน้ำส่วนเกินถูกระบายออกมาทางรูระบาย สำหรับการรดน้ำนั้น ควรรดวันเว้นวัน 
การปลูกลงดิน : ควรให้น้ำแต่น้อยให้ประมาณสัปดาห์ละครั้ง ขึ้นอยู่กับสภาพความชื้นในอากาศ  ถ้าอากาศร้อนควรให้น้ำมากกว่าปกติ เพื่อรักษาความเขียวของใบ แต่การให้น้ำมากเกินอาจจะส่งผลให้ลีลาวดีไม่ออกดอก 

         2. การให้ปุ๋ย
ลีลาววดีจะเจริญเติบโตงอกงามได้ดีที่สุดในปุ๋ยทีมีไนโตรเจนต่ำ ฟอสฟอรัสสูง และโพแทสเซียม ในปริมาณที่เพียงพอ เนื่องจากธาตุฟอสฟอรัสจะกระตุ้นการออกดอก โดยทั่วไปลีลาวดีจะแตกกิ่งกานเมื่อมีดอก ดังนั้นต้องให้ปุ๋ยที่ส่งเสริมการออกดอกซึ้งเมื่อออกดอกมากก็หมายถึงจะมีกิ่งก้านสาขามากตามมา ส่วนธาตุไนโตรเจนจะช่วยส่งเสริมการเจริญเติบโตของลำต้น กิ่งก้าน ใบ แต่ถ้าได้รับมากเกินไป จะทำให้มีใบมากเกินไป และไม่มีดอก นอกจากนั้นยังต้องได้รับธาตุอาหารรองได้แก่ แคลเซี่ยมและกำมะถัน โดยเฉพาะธาตุแมกนีเซียม เพื่อป้องกันโรคใบไหม้รวมทั้งธาตุอาหารจุลธาตุที่เพียงพอ ได้แก่ ธาตุเหล็ก อลูมิเนียม ทองแดง แมงกานีส โมลิบดินัม โบรอน และคลอไรด์ โดยเฉพาะธาตุเหล็ก ซึ่งช่วยป้องกันอาการใบซีด



การขยายพันธุ์ต้นลีลาวดี

1. การเพาะเมล็ด จะใช้ฝักที่แก่จัด ส่วนใหญ่ใช้ในการปรับปรุงพันธุ์ ซึ่งเมล็ดลีลาวดีงอกได้ง่าย แต่ละฝักของลีลาวดีจะได้ต้นกล้าประมาณ 50 -100 ต้น สามารถเพาะในกระถางเพาะได้เลย

2. การปักชำ ถือว่าเป็นวิธีที่ง่ายและรวดเร็ว อีกทั้งยังคงรักษาพันธุ์เดิมเอาไว้ด้วย

3. การเปลี่ยนยอด จะ ใช้ในกรณีที่ได้พันธุ์ดีแล้วนำมาเปลี่ยนยอดบนต้นตอที่เพาะกล้าไว้แล้วอาจจะ เสียบข้างหรือผ่าเป็นลิ่ม วิธีนี้ต้องป้องกันไม่ให้น้ำเข้า ไม่เช่นนั้นแผลจะเน่า

4. การติดตา ใช้ในกรณีที่ได้ตามีไม่มากนัก เป็นการขยายพันธุ์แบบประหยัด กิ่งหนึ่งสามารถขยายพันธุ์ได้เป็นจำนวนมาก

ประโยชน์ของต้นลีลาวดี


1. ประโยชน์ของดอกลีลาวดีใช้ผสมกับพลู ทำเป็นยาแก้ไข้ และไข้มาลาเรีย(ดอกลีลาวดี,เปลือกต้น)
2. ช่วยรักษาไข้หวัด (ราก)
3. ใช้ปรุงเป็นยาแก้ไอ (เนื้อไม้)
4. ช่วยถ่ายเสมหะและโลหิต (ยางและแก่น)
5. ช่วยขับเหงื่อ แก้ร้อนใน (ราก)
6. ช่วยรักษาโรคหืดหอบ ด้วยการใช้ใบลีลาวดีแห้งนำมาชงกับน้ำร้อนดื่ม (ใบแห้ง)
7. ยางจากต้นลีลาวดีใช้ผสมกับไม้จันทร์และการบูรทำเป็นยาแก้อาการปวดฟัน (ยางจากต้น)
8. มีการนำมาใช้ปรุงเป็นยารักษาโรคลำไส้พิการของม้า (ต้น)
9. ใช้ปรุงเป็นยาถ่าย (เนื้อไม้,ยางจากต้น,เปลือกราก,เปลือกต้น)
10. ช่วยขับลมในกระเพาะ (เปลือกราก)
11. ใช้เปลือกต้นผสมกับน้ำมันมะพร้าว มันเนย และข้าวทำเป็นยาแก้ท้องเดิน(เปลือกต้น)
12. ใช้เปลือกต้นผสมกับน้ำมันมะพร้าว มันเนย และข้าวทำเป็นยาขับปัสสาวะ (เปลือกต้น)
13. ฝักนำมาฝนเพื่อนำมาใช้ทาแก้ริดสีดวงทวารได้ (ฝัก)
14. ช่วยขับระดู (เปลือกต้น)
15. ช่วยในการขับพยาธิ (เนื้อไม้)
16. ใช้เปลือกรากปรุงเป็นยารักษาโรคหนองใน (เปลือกราก)
17. ช่วยรักษาโรคโกโนเรีย หรือโรคหนองในแท้ (Gonorrhea) (เปลือกต้น)
18. สรรพคุณของลีลาวดีช่วยรักษากามโรค (ยางและแก่น)
19. ช่วยรักษาโรคไขข้ออักเสบ (ยากจากต้น,เปลือกราก)
20. ใบสดใช้ชงกับน้ำร้อนรักษาหิด (ใบสด)
21. ใบสดลีลาวดีลนไฟประคบร้อนช่วยแก้อาการปวด บวมได้ (ใบสด)
22. ใช้ปรุงเป็นยาถ่ายพิษทั้งปวง (ยางและแก่น)
23. ยางจากต้นลีลาวดีใช้ผสมกับไม้จันทร์และการบูรทำเป็นยาแก้คัน (ยางจากต้น)
24. ประโยชน์ดอกลีลาวดี ใช้ทำเป็นธูป (ดอก)
25. กลิ่นของดอกลีลาวดีช่วยทำให้นอนหลับสบาย
26. มีความเชื่อว่ากลิ่นของดอกลีลาวดีจะช่วยลดความรู้สึกทางเพศ เหมาะสำหรับนักบวชและผู้ฝึกตน ที่ไม่ต้องการให้กามารมณ์มากวนใจ
27. ต้น ลีลาวดีนิยมใช้ในการจัดสวน เพื่อตกแต่งภูมิทัศน์เป็นอย่างมาก โดยพันธุ์ที่นิยมปลูกกันก็คือ “พันธุ์ขาวพวง” หรือพันธุ์ดั้งเดิมนั่นเอง



แหล่งอ้างอิง : สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย (วว.)

วันศุกร์ที่ 28 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

แหล่งอ้างอิงและผู้จัดทำ


กระปุกดอทคอม. ต้นลีลาวดี กลิ่นหอมนุ่มเคียงคู่สวนสวย. [ออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก. :                
          http://home.kapook.com/view44457.html (วันที่ค้นข้อมูล: 27 พฤศจิกายน 2557).


พรทิพย์ ศิริภัทราชัย. (2556, เมษายน-มิถุนายน). STEM Education กับการพัฒนาทักษะในศตวรรษ
          ที่ 21
. นักบริหาร. 33(2): 49-55  (วันที่ค้นข้อมูล: 27 พฤศจิกายน 2557)

การ์เด้นเนอร์. การเพาะปลูกดอกลีลาวดี. [ออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก. : http://www.gardener.cm-newlook.com/ (วันที่ค้นข้อมูล: 27 พฤศจิกายน 2557).

ผู้จัดทำ
น.ส.ลภัสรดา เจริญศรี เลขที่ 22
น.ส.ตรีเนตร ขันธ์วงศ์ เลขที่ 26
ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5/1
โรงเรียนสุรศักดิ์มนตรี